การเปลี่ยนแปลงแบบยกเครื่องใหม่หมดของ Windows 8 แม้ทาง Microsoft จะพยายามบอกเล่าถึงข้อดีและประสิทธิภาพเมื่อได้ใช้งาน แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปกลับไม่เป็นอย่างที่คาดหวังไว้ จน Microsoft ต้องรีบเร่งพัฒนาระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ออกมาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ตลอดจนเป็นการสนับสนุนประสบการณ์การใช้งาน Windows ในรูปแบบเดิมๆ ที่ผู้ใช้คุ้นเคย ให้มีความง่าย สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้เมื่อปลายปี 2014 ที่ผ่านมา เราจึงได้เห็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ “Windows 10”
การเปิดตัวของ Windows 10 อาจทำให้หลายท่านสงสัยว่า แล้ว Windows 9 หายไปไหน ซึ่งสิ่งที่ Microsoft ต้องการสื่อไปถึงผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วโลก ไม่ใช่การตอบคำถามเรื่องการก้าวกระโดดเลขรุ่นของ Windows แต่จะเน้นไปที่การพัฒนาระบบปฏิบัติการที่เกิดจากการฟังเสียงผู้ใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น พร้อมกับนำลูกเล่นเก่าๆ มาปัดฝุ่นและเพิ่มความน่าใช้ให้มีความทันสมัย รวมทั้งการเพิ่มความสามารถในการใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ ทุกขนาดหน้าจอ และทุกรูปแบบการใช้งาน ได้แก่ การใช้งานร่วมกับหน้าจอทัชสกรีน หรือร่วมกับเมาส์และคีย์บอร์ด ภายใต้แนวคิด “ One Windows ”
ในช่วงต้นของ Windows 10 ก่อนหน้านี้จะเปิดให้นักพัฒนาและผู้สนใจได้ทดสอบใช้งานในเบื้องต้นหรือที่ Microsoft ให้คำจำกัดความว่า Windows 10 Technical Preview หากผู้ที่ต้องการทดสอบทำการติดตั้งเสร็จกับเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นที่เรียบร้อย เรามาไล่เรียงความน่าใช้กันว่าจะมีอะไรใหม่ที่ดีขึ้น ทันสมัยกว่า Windows 8, 8.1 และ Windows 7
1. ปุ่ม Start Menu
ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปส่วนใหญ่อาจจะยังทำงานด้วยความคุ้นชินกับ Windows 7 ที่มีปุ่ม Start Menu เป็นเครื่องมือสุดดั้งเดิม แต่บางท่านที่เปลี่ยนมาใช้ Windows 8 หรือ 8.1 คงได้สัมผัสกับการใช้งานที่แตกต่างออกไป เมื่อ Microsoft ตัดสินใจโละปุ่ม Start Menu ทิ้งไป พร้อมชูจุดเด่นใหม่อย่าง Modern UI เข้ามาแทนที่ ซึ่งเสียงตอบรับจากการเปลี่ยนแปลงกลับเป็นไปในทิศทางที่ไม่ค่อยดีนัก เนื่องจากผู้ใช้ Windows ส่วนใหญ่ยังชินกับการมีปุ่ม Start Menu ทำให้ Microsoft นำเครื่องมือดังกล่าวกลับมาอีกครั้งใน Windows 10
จากการเปิดใช้งานจะเห็นได้ว่า การกลับมาของปุ่ม Start Menu ยังได้นำพา Modern UI ที่มีใน Windows 8 หรือ 8.1 มาผสมผสานไว้เช่นกัน ซึ่งผู้ใช้สามารถลากปรับตำแหน่งของแต่ละแอพพลิเคชันได้ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันในแท็บด้านซ้ายของ Start Menu ยังคอยแสดงแอพพลิเคชันที่เปิดใช้งานเป็นประจำ รวมไปถึงเมื่อคลิกเลือกที่ All Apps ผู้ใช้จะพบแอพฯ ต่างๆ เรียงลำดับตั้งแต่ A-Z สำหรับเรียกใช้งานได้อย่างรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์สามารถสร้างหน้าเดสก์ทอป เพื่อการทำงานที่หลากหลายตามที่ต้องการภายใต้หน้าจอเดียว นอกจากนี้ Windows 10 ยังมีระบบ Snap view ที่สามารถย่อขนาดหน้าต่างของแต่ละแอพพลิเคชันไว้เคียงข้างกันได้ถึง 4 แอพฯ
3. Cortana
เป็นฟีเจอร์ที่ Microsoft นำเข้ามาจาก Windows Phone 8 ซึ่ง Cortana เป็นระบบผู้ช่วยส่วนตัวที่รองรับการสั่งงานด้วยเสียง สามารถค้นหาและนำเสนอข้อมูลให้กับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ แต่ตอนนี้ Cortana ใน Windows 10 ยังเป็นเพียงรุ่น Beta ฉะนั้นแล้วการทำงานจึงยังไม่สมบูรณ์ รวมไปถึงการใช้งานจะจำกัดในบางภูมิภาคเท่านั้นในเวลานี้
การเปิดใช้งาน Cortana ใน Windows 10 Technical Preview ผู้ใช้จำเป็นต้องเข้าไปตั้งค่าในเมนู “เวลา & ภาษา” เพื่อกำหนดให้เป็นภาษาของสหรัฐอเมริกา จากนั้นให้ทดสอบที่แท็บ Universal search ก็จะพบว่า Cortana พร้อมใช้งานแล้ว นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถเปิดฟีเจอร์ “ Hey Cortana” สำหรับการสั่งงานด้วยเสียง เพียงคลิกที่แท็บ Settings และเข้าไปเปิดการทำงานที่เมนู Let Cortana respond when you say “Hey Cortana”
4. Microsoft Edge
อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นถึงการปลุกปั้นบราวเซอร์ใหม่ที่มีชื่อว่า Microsoft Edge บราวเซอร์ใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ Internet Explorer และ Microsoft ก็หวังที่จะพัฒนาให้มีความน่าใช้เทียบเท่าหรือเหนือกว่า Firefox หรือ Google Chrome ซึ่งในรายละเอียดเบื้องต้นที่ Microsoft บอกเล่ามา Microsoft Edgeรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ระบบสัมผัสได้ ทำให้สามารถใช้สไตลัสในการขีดเขียน จดบันทึกเพิ่มเติมบนหน้าเว็บ พร้อมเชื่อมการเก็บบันทึกไปยัง OneDrive พร้อมทั้งให้ผู้ใช้แชร์ภาพที่ทำการบันทึกไว้ไปยัง Facebook และ Twitter ได้ ไม่เพียงแค่นั้น Microsoft Edge ยังมี Reading Mode คุณสมบัติเพื่อการอ่านบนหน้าบราวเซอร์ และเก็บบันทึกเพจที่ต้องการไว้ใช้อ่านในภายหลังในลักษณะของออฟไลน์ได้อีกด้วย
5. Action Center และ Notification Center
เครื่องมือแจ้งเตือนที่ทำให้ผู้ใช้สามารถรับการแจ้งเตือนของแอพฯ ต่าง ๆ ได้ พร้อมทั้งการตอบกลับหรือแนบไฟล์ได้ง่ายๆ ในทันที
สำหรับใน Windows 10 build 10240 ตัวล่าสุดและน่าจะเป็นรุ่นทดสอบสุดท้ายที่ปล่อยออกมาเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ได้มีการปรับปรุงในส่วนของ Web Browser ให้ทำงานได้เร็วขึ้น และการปรังปรุงความเสถียรอื่นๆ ทั่วไป
ส่วนของการทยอยอัพเกรดเป็น Windows 10 ให้กับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่เป็น Windows 7, 8 หรือ 8.1 ทั่วโลกจะเริ่มต้นในวันที่ 29 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลาบ้านเราในวันที่ 30 กรกฎาคม ซึ่งสามารถอัพเกรดมาใช้ Windows 10 ได้ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายในปีแรกที่ Microsoft เริ่มวางจำหน่าย Windows 10
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก www.aripfan.com